ความรู้สึกที่ถึงกับทำให้ออกผนวช
ภิกษุทั้งหลาย !
ในโลกนี้ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้
เมื่อเรายังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ตนเองมีความเกิดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความเกิดเป็นธรรมดาอยู่นั่นเองตนเองมีความแก่เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความแก่เป็นธรรมดาอยู่นั่นเองตนเองมีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาอยู่นั่นเองตนเองมีความตายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความตายเป็นธรรมดาอยู่นั่นเองตนเองมีความโศกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความโศกเป็นธรรมดาอยู่นั่นเองตนเองมีความเศร้าหมองโดยรอบด้าน
เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความเศร้าหมองโดยรอบด้าน
เป็นธรรมดาอยู่นั่นเองอีกภิกษุทั้งหลาย !
ก็อะไรเล่า เป็นสิ่งที่มีความเกิด มีความแก่
มีความเจ็บไข้ มีความตาย มีความโศก
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดา…
ภิกษุทั้งหลาย !
บุตรและภรรยา
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดาทาสหญิงทาสชาย
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดาแพะ แกะ
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดาไก่ สุกร
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดาช้าง โค ม้า ลา
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดาทองและเงิน
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดา
สิ่งที่มนุษย์เข้าไปเทิดทูนเอาไว้เหล่านี้แลที่ชื่อว่าสิ่งที่
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้านเป็นธรรมดาซึ่งคนในโลกนี้พากันจมติดอยู่
พากันมัวเมาอยู่ พากันสยบอยู่ในสิ่งเหล่านี้จึงทำให้ตนทั้งที่
มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้าน
เป็นธรรมดาอยู่เองแล้วก็ยังมัวหลงแสวงหา
สิ่งที่มีความเกิดเป็นธรรมดา
มีความแก่เป็นธรรมดา
มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
มีความตายเป็นธรรมดา
มีความโศกเป็นธรรมดา
มีความเศร้าหมองโดยรอบด้าน
เป็นธรรมดาอยู่นั่นเอง
ภิกษุทั้งหลาย !
ความคิดอันนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่าทำไมหนอ
เราซึ่งมีความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้
ความตาย ความโศก ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้านเป็นธรรมดาอยู่เองแล้วจะต้องไปมัวแสวงหา
สิ่งที่มีความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้
ความตาย ความโศก ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้านเป็นธรรมดาอยู่อีกไฉนหนอ
เราผู้มีความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้
ความตาย ความโศก ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้านเป็นธรรมดาอยู่เองแล้วครั้นได้รู้สึกถึงโทษอันต่ำทราม
ของการมีความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้
ความตาย ความโศก ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้านเป็นธรรมดานี้แล้วเราพึงแสวงหานิพพาน
อันไม่มีความเกิด ความแก่ ความเจ็บไข้
ความตาย ความโศก ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้านเป็นธรรมดาอันเป็นธรรมที่เกษมจากเครื่องร้อยรัด
ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าเถิด…
ภิกษุทั้งหลาย !
เรานั้นโดยสมัยอื่นอีก ยังหนุ่มเทียว
เกสายังดำจัด บริบูรณ์ด้วยความหนุ่ม
ที่กำลังเจริญยังอยู่ในปฐมวัยเมื่อมารดาบิดาไม่ปรารถนาด้วย
กำลังพากันร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่เราได้ปลงผมและหนวด
ครองผ้าย้อมฝาดออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่มีเรือนแล้ว
( บาลี – มู. ม. ๑๒/๓๑๖-๓๑๗/๓๑๖-๓๒๐ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้