วินิจฉัยกรรม
( เมื่อจะกระทำ )ราหุล !
เธอใคร่จะทำกรรมใดด้วยกาย
พึงพิจารณากรรมนั้นเสียก่อนว่า
กายกรรมที่เราใคร่จะกระทำนี้
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
เบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็นอกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร
มีทุกข์เป็นวิบากหรือไม่หนอ ดังนี้ราหุล !
ถ้าเธอพิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้
เธอไม่พึงกระทำกายกรรมชนิดนั้นโดยถ่ายเดียว…
ราหุล !
ถ้าเธอพิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ว่า
กายกรรมที่เราใคร่จะกระทำนี้
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็นกุศล
มีสุขเป็นกำไร
มีสุขเป็นวิบาก ดังนี้ไซร้ราหุล !
เธอพึงกระทำกายกรรมชนิดนั้น
( เมื่อกระทำอยู่ )ราหุล !
เมื่อเธอกระทำกรรมใดด้วยกายอยู่
พึงพิจารณากรรมนั้นว่า
กายกรรมที่เรากำลังกระทำอยู่นี้
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
เบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็นอกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร
มีทุกข์เป็นวิบากหรือไม่หนอ ดังนี้ราหุล !
ถ้าเธอพิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้
เธอพึงเลิกละกายกรรมชนิดนั้นเสีย…
ราหุล !
ถ้าเธอพิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ว่า
กายกรรมที่เรากำลังกระทำอยู่นี้
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็นกุศล
มีสุขเป็นกำไร
มีสุขเป็นวิบาก ดังนี้ไซร้ราหุล !
เธอพึงเร่งเพิ่มการกระทำกายกรรมชนิดนั้น
( เมื่อกระทำแล้ว )ราหุล !
เมื่อเธอกระทำกรรมใดด้วยกายแล้ว
พึงพิจารณากรรมนั้นว่า
กายกรรมที่เรากระทำแล้วนี้
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
เบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็นอกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร
มีทุกข์เป็นวิบากหรือไม่หนอ ดังนี้ราหุล !
ถ้าเธอพิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้
เธอพึงแสดง พึงเปิดเผย
พึงกระทำให้เป็นของหงาย
ซึ่งกายกรรมนั้นในพระศาสนา
หรือในเพื่อนสพรหมจารี
ผู้เป็นวิญญูชนทั้งหลายครั้นแสดง ครั้นเปิดเผย
ครั้นกระทำให้เป็นของหงายแล้ว
พึงถึงซึ่งความระวังสังวรต่อไป…
ราหุล !
ถ้าเธอพิจารณารู้สึกอยู่ดังนี้ว่า
กายกรรมที่เรากระทำแล้วนี้
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็นกุศล
มีสุขเป็นกำไร
มีสุขเป็นวิบาก ดังนี้ไซร้ราหุล !
เธอพึงอยู่ด้วยปีติและปราโมทย์
ตามศึกษาในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่
ทั้งกลางวันและกลางคืนเถิด… … … … … … …
ในกรณีแห่ง วจีกรรม และ มโนกรรม ก็ตรัสไว้โดยมีนัยยะอย่างเดียวกัน
… … … … … … …
( บาลี – ม. ม. ๑๓/๑๒๖-๑๒๘/๑๒๙ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้