ความแตกต่างของอกุศลมูล
ราคะ โทสะ โมหะ



ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพพาชก
จะพึงถามอย่างนี้ว่า

อาวุโสทั้งหลาย
ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้
๓ อย่างอะไรบ้าง คือ
ราคะ โทสะ และโมหะ

อาวุโสทั้งหลาย
เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่าง

อาวุโสทั้งหลาย
ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้
มีอะไรเป็นความผิดแปลกกัน
มีอะไรเป็นความมุ่งหมายที่ต่างกัน
มีอะไรที่ทำให้ต่างกัน

ภิกษุทั้งหลาย
เมื่อเธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว
จะพึงตอบแก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพพาชก
เหล่านั้นว่าอย่างไร

ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า

ภันเต
ธรรมของพวกข้าพระองค์ทั้งหลาย
มีพระผู้มีพระภาคเป็นมูล
มีพระผู้มีพระภาคเป็นผู้นำ
มีพระผู้มีพระภาคเป็นที่อาศัย

สาธุ ภันเต
ขอเนื้อความแห่งภาษิตนั้น
จงแจ่มแจ้งกะพระผู้มีพระภาคเถิด

ภิกษุทั้งหลาย
ได้ฟังต่อพระผู้มีพระภาคแล้วจักทรงจำไว้

ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าอย่างนั้นเธอทั้งหลายจงฟัง
จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว



ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพพาชก
จะพึงถามอย่างนี้ว่า

อาวุโสทั้งหลาย
ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้
๓ อย่างอะไรบ้าง คือ
ราคะ โทสะ และโมหะ

อาวุโสทั้งหลาย
เหล่านี้แลธรรม ๓ อย่าง

อาวุโสทั้งหลาย
ธรรม ๓ อย่างเหล่านี้
มีอะไรเป็นความผิดแปลกกัน
มีอะไรเป็นความมุ่งหมายที่ต่างกัน
มีอะไรที่ทำให้ต่างกัน

ภิกษุทั้งหลาย
เมื่อเธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว
พึงตอบแก่พวกอัญญเดียรถีย์
ปริพพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า

อาวุโสทั้งหลาย
ราคะมีโทษน้อย แต่คลายช้า
โทสะมีโทษมาก แต่คลายเร็ว
โมหะมีโทษมาก และคลายช้า



ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า

อาวุโสทั้งหลาย
อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่ทำให้ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
หรือราคะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

พึงตอบว่า สุภนิมิต
คือ เมื่อเขาทำในใจซึ่งสุภนิมิตโดยไม่แยบคายอยู่
ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
และราคะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

อาวุโสทั้งหลาย
นี้แลเป็นเหตุ นี้แลเป็นปัจจัย
ที่ทำให้ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
หรือราคะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น



ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า

อาวุโสทั้งหลาย
อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
หรือโทสะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

พึงตอบว่า ปฏิฆนิมิต
คือ เมื่อเขาทำในใจซึ่งปฏิฆนิมิตโดยไม่แยบคายอยู่
โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
และโทสะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

อาวุโสทั้งหลาย
นี้แลเป็นเหตุ นี้แลเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
หรือโทสะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น



ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า

อาวุโสทั้งหลาย
อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โมหะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
หรือโมหะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

พึงตอบว่า อโยนิโสมนสิการ
คือ เมื่อเขาทำในใจโดยไม่แยบคายอยู่
โมหะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
และโมหะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

อาวุโสทั้งหลาย
นี้แลเป็นเหตุ นี้แลเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โมหะที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
หรือโมหะที่เกิดอยู่แล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น



ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า

อาวุโสทั้งหลาย
อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่ทำให้ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
หรือราคะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้

พึงตอบว่า อสุภนิมิต
คือ เมื่อเขาทำในใจซึ่งอสุภนิมิตโดยแยบคายอยู่
ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
และราคะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้

อาวุโสทั้งหลาย
นี้แลเป็นเหตุ นี้แลเป็นปัจจัย
ที่ทำให้ราคะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
หรือราคะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้



ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า

อาวุโสทั้งหลาย
อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
หรือโทสะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้

พึงตอบว่า เมตตาเจโตวิมุตติ
คือ เมื่อเขาทำในใจซึ่งเมตตาเจโตวิมุตติโดยแยบคายอยู่
โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
และโทสะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้

อาวุโสทั้งหลาย
นี้แลเป็นเหตุ นี้แลเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โทสะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
หรือโทสะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้



ถ้าเขาถามต่อไปอีกว่า

อาวุโสทั้งหลาย
อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โมหะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
หรือโมหะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้

พึงตอบว่า โยนิโสมนสิการ
คือ เมื่อเขาทำในใจโดยแยบคายอยู่
โมหะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
และโมหะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้

อาวุโสทั้งหลาย
นี้แลเป็นเหตุ นี้แลเป็นปัจจัย
ที่ทำให้โมหะที่ยังไม่เกิดย่อมไม่เกิดขึ้น
หรือโมหะที่เกิดอยู่แล้วย่อมละได้


( บาลี – ติก. อํ. ๒๐/๒๕๖-๒๕๘/๕๐๘ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้


Create by buddha-quote.com