ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
อย่าเลย วักกลิ !
ประโยชน์อะไรด้วยการเห็นกายเน่านี้วักกลิ !
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรมวักกลิ !
เมื่อเห็นธรรมอยู่ ก็คือเห็นเรา
เมื่อเห็นเราอยู่ ก็คือเห็นธรรม
( บาลี – ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๔๖-๑๔๗/๒๑๖ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้
ภิกษุทั้งหลาย !
แม้ภิกษุจับชายสังฆาฏิ
เดินตามรอยเท้าเราไปข้างหลัง ๆแต่ถ้าเธอนั้นมากไปด้วยอภิชฌา
มีกามราคะกล้า มีจิตพยาบาท
มีความดำริแห่งใจเป็นไปในทางประทุษร้าย
มีสติหลงลืม ไม่มีสัมปชัญญะ
มีจิตไม่เป็นสมาธิแกว่งไปแกว่งมา
ไม่สำรวมอินทรีย์ แล้วไซร้ภิกษุนั้นชื่อว่าอยู่ไกลจากเรา
แม้เราก็อยู่ไกลจากภิกษุนั้นโดยแท้ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
…
ภิกษุทั้งหลาย !
ข้อนั้นเหตุเพราะว่าภิกษุนั้นไม่เห็นธรรม
เมื่อไม่เห็นธรรม ก็ชื่อว่าไม่เห็นเรา
ภิกษุทั้งหลาย !
แม้ภิกษุนั้นจะอยู่ห่างตั้งร้อยโยชน์แต่ถ้าเธอนั้นไม่มากไปด้วยอภิชฌา
ไม่มีกามราคะกล้า ไม่มีจิตพยาบาท
ไม่มีความดำริแห่งใจเป็นไปในทางประทุษร้าย
มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ
มีจิตเป็นสมาธิถึงความเป็นเอกัคคตา
สำรวมอินทรีย์ แล้วไซร้ภิกษุนั้นชื่อว่าอยู่ใกล้กับเรา
แม้เราก็อยู่ใกล้กับภิกษุนั้น โดยแท้ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
…
ภิกษุทั้งหลาย !
ข้อนั้นเพราะเหตุว่าภิกษุนั้นเห็นธรรม
เมื่อเห็นธรรม ก็ชื่อว่าเห็นเรา
( บาลี – ขุ.-ธ.-อุ.-อิติวุ.-สุตฺต. ขุ. ๒๕/๓๐๐-๓๐๑/๒๗๒ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้