อย่ายึดถือติดแน่นในธรรม
แต่จงใช้แค่เป็นเครื่องมือ
ภิกษุทั้งหลาย !
เปรียบเหมือนบุรุษเดินทางไกลไปพบแม่น้ำใหญ่
ฝั่งข้างนี้ก็เต็มไปด้วยอันตราย น่ารังเกียจ น่ากลัวฝั่งข้างโน้นปลอดภัย
แต่เรือหรือสะพาน
สำหรับข้ามไม่มี เพื่อจะข้ามไปเขาใคร่ครวญเห็นเหตุนี้
แล้วคิดสืบไปว่า กระนั้นเราพึงรวบรวม
หญ้าแห้ง ไม้แห้ง กิ่งไม้และใบไม้ มาผูกเป็นแพแล้วพยายามเอาด้วยมือและเท้า
ก็จะพึงข้ามไปโดยสวัสดีบุรุษนั้นครั้นทำดังนั้น และข้ามไปได้โดยสวัสดี
แล้วลังเลว่า แพนี้มีอุปการะแก่เราเป็นอันมาก
ถ้าไฉนเราจักทูนไปด้วยศีรษะ
หรือแบกไปด้วยบ่า พาไปด้วยกัน ดังนี้ภิกษุทั้งหลาย !
พวกท่านจะสำคัญว่าอย่างไร
บุรุษนั้นจักทำอย่างนั้น หรือหนอ ?
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
ข้อนั้นหามิได้ภิกษุทั้งหลาย !
เขาพึงทำอย่างไร ?ถ้าไฉนเขาจะพึงคร่ามันขึ้นบก
หรือปล่อยให้ลอยไปในน้ำ
ส่วนเขาเอง ก็หลีกไปตามปรารถนาเท่านั้นเองนี้ฉันใด
ธรรมที่เราแสดงแล้ว
ก็เพื่อรื้อถอนตนออกจากทุกข์
ไม่ใช่เพื่อให้ยึดถือเอาไว้เปรียบได้กับพ่วงแพ
ก็ฉันนั้นเหมือนกัน…
ภิกษุทั้งหลาย !
ท่านทั้งหลายผู้ได้ฟังธรรมอันเราแสดงแล้ว
อันเปรียบด้วยพ่วงแพ ควรละธรรมทั้งหลายเสียและป่วยกล่าวไปไย ถึงสิ่งไม่ใช่ธรรม
( บาลี – มู. ม. ๑๒/๒๗๐-๒๗๑/๒๘๐ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้