ตถาคตเป็นเพียงผู้บอก
ก็สาวกของพระโคดมผู้เจริญ
เมื่อพระโคดมกล่าวสอนพร่ำสอนอยู่อย่างนี้ทุก ๆ รูปได้บรรลุนิพพาน
อันเป็นผลสำเร็จถึงที่สุดอย่างยิ่งหรือ ?หรือว่าไม่ได้บรรลุ ?
พราหมณ์ผู้หนึ่งทูลถามพระผู้มีพระภาค
…
พราหมณ์ !
สาวกของเราแม้เรากล่าวสอน พร่ำสอนอยู่อย่างนี้น้อยพวกที่ได้บรรลุนิพพาน
อันเป็นผลสำเร็จถึงที่สุดอย่างยิ่งบางพวกไม่ได้บรรลุ
พระโคดมผู้เจริญ !
อะไรเล่าเป็นเหตุ อะไรเล่าเป็นปัจจัยที่พระนิพพาน ก็ยังตั้งอยู่
หนทางที่ยังสัตว์ให้ถึงนิพพาน ก็ยังตั้งอยู่
พระโคดมผู้ชักชวน ก็ยังตั้งอยู่ทำไมน้อยพวกที่บรรลุและบางพวกไม่บรรลุ ?
พราหมณ์ !
เราจักย้อนถามท่านในเรื่องนี้
ท่านจงตอบตามควรท่านเป็นผู้ช่ำชอง
ในหนทางไปสู่เมืองราชคฤห์มิใช่หรือ ?มีบุรุษผู้จะไปเมืองราชคฤห์
เข้ามาหาและกล่าวกับท่านว่าท่านผู้เจริญ !
ข้าพเจ้าปรารถนาจะไปเมืองราชคฤห์
ขอท่านจงชี้บอกทางไปเมืองราชคฤห์
แก่ข้าพเจ้าเถิด ดังนี้ท่านก็จะกล่าวกะบุรุษผู้นั้นว่า
มาซิท่านทางนี้ไปเมืองราชคฤห์ ไปได้ครู่หนึ่ง
จักพบบ้านชื่อโน้น แล้วจักเห็นนิคมชื่อโน้น
จักเห็นสวนและป่าอันน่ารื่นรมย์
จักเห็นภูมิภาคอันน่ารื่นรมย์
สระโบกขรณีอันน่ารื่นรมย์ของเมืองราชคฤห์ ดังนี้…
บุรุษนั้นอันท่านพร่ำบอกพร่ำชี้ให้อย่างนี้
ก็ยังถือเอาทางผิด กลับหลังตรงกันข้ามไปส่วนบุรุษอีกคนหนึ่ง
ไปถึงเมืองราชคฤห์ได้โดยสวัสดีพราหมณ์เอย !
อะไรเล่าเป็นเหตุ อะไรเล่าเป็นปัจจัยที่เมืองราชคฤห์ ก็ยังตั้งอยู่
ท่านผู้ชี้บอก ก็ยังตั้งอยู่
แต่ทำไมบุรุษผู้หนึ่งกลับหลงผิดทาง
ส่วนบุรุษอีกผู้หนึ่งไปถึงเมืองราชคฤห์ได้โดยสวัสดีพระโคดมผู้เจริญ !
ในเรื่องนี้ข้าพเจ้าจักทำอย่างไรได้เล่า
เพราะข้าพเจ้าเป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น
พราหมณ์ !
ฉันใดก็ฉันนั้นแลที่พระนิพพาน ก็ยังตั้งอยู่
ทางเป็นเครื่องถึงพระนิพพาน ก็ยังตั้งอยู่
เราผู้ชักชวน ก็ยังตั้งอยู่แต่สาวกแม้เรากล่าวสอน พร่ำสอนอยู่อย่างนี้
น้อยพวกที่ได้บรรลุนิพพาน
อันเป็นผลสำเร็จถึงที่สุดอย่างยิ่งบางพวกไม่ได้บรรลุ
พราหมณ์ !
ในเรื่องนี้เราจักทำอย่างไรได้เล่า
เพราะเราเป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น
( บาลี – อุปริ. ม. ๑๔/๘๕-๘๗/๑๐๑-๑๐๓ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้