เวทนาใด ๆ ก็ตาม เวทนานั้น ๆ
ประมวลลงในความทุกข์
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เมื่อข้าพระองค์หลีกออกเร้นอยู่
ได้เกิดการใคร่ครวญขึ้นในใจว่าพระผู้มีพระภาคได้ตรัสเวทนาไว้สามอย่าง
คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนาก็พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสคำนี้ไว้ว่า
เวทนาใด ๆ ก็ตาม เวทนานั้น ๆ
ประมวลลงในความทุกข์ ดังนี้ข้อที่พระองค์ตรัสว่า
เวทนาใด ๆ ก็ตาม เวทนานั้น ๆ
ประมวลลงในความทุกข์ ดังนี้ทรงหมายถึงอะไรหนอ ?
ภิกษุ ! ดีแล้ว ดีแล้ว
เรากล่าวเวทนาไว้สามอย่างเหล่านี้คือ
สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนาจริงและยังได้กล่าวว่า
เวทนาใด ๆ ก็ตาม เวทนานั้น ๆ
ประมวลลงในความทุกข์ข้อนี้เรากล่าวหมายถึง
ความเป็นของไม่เที่ยง
แห่งสังขารทั้งหลาย นั่นเอง…
และเรายังกล่าวหมายถึง
ความเป็นของสิ้นไป
เป็นธรรมดาความเป็นของเสื่อมไป
เป็นธรรมดาความเป็นของจางคลายไป
เป็นธรรมดาความเป็นของดับไม่เหลือ
เป็นธรรมดาความเป็นของแปรปรวน
เป็นธรรมดาของสังขารทั้งหลายนั่นแหละ
ที่ได้กล่าวว่า
เวทนาใด ๆ ก็ตาม เวทนานั้น ๆ
ประมวลลงในความทุกข์ ดังนี้
( บาลี – สฬา. สํ. ๑๘/๒๖๘/๓๙๑ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้