อวิชชาและวิชชา
พระองค์ผู้เจริญ !
พระองค์กล่าวว่า อวิชชา อวิชชา ดังนี้
ก็อวิชชานั้นเป็นอย่างไร ?และด้วยเหตุเท่าไร
บุคคลจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงแล้วซึ่งอวิชชาแน่ะภิกษุ !
ความไม่รู้อันใดเป็นความไม่รู้ในทุกข์เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์
และเป็นความไม่รู้
ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์นี้เราเรียกว่า อวิชชา
และบุคคลชื่อว่าถึงแล้วซึ่งอวิชชา
ก็เพราะเหตุไม่รู้ความจริงมีประมาณเท่านี้แล
พระองค์ผู้เจริญ !
พระองค์กล่าวว่า วิชชา วิชชา ดังนี้
ก็วิชชานั้นเป็นอย่างไร ?และด้วยเหตุเท่าไร
บุคคลจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงแล้วซึ่งวิชชาแน่ะภิกษุ !
ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
เป็นความรู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์
และเป็นความรู้
ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์นี้เราเรียกว่า วิชชา
และบุคคลชื่อว่าถึงแล้วซึ่งวิชชา
ก็เพราะเหตุรู้ความจริงมีประมาณเท่านี้แล
ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะเหตุนั้นในกรณีนี้พวกเธอพึงทำความเพียร
เพื่อให้รู้ตามเป็นจริงว่า นี้เป็นทุกข์นี้เป็นเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์
นี้เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
นี้เป็นทางดำเนิน
ให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ดังนี้เถิด
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๘-๕๓๙/๑๖๙๔-๑๖๙๕ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้