นิวรณ์เป็นเครื่องทำกระแสจิต
ไม่ให้รวมกำลัง
ภิกษุทั้งหลาย !
นิวรณ์เป็นเครื่องกางกั้นห้าอย่างเหล่านี้
ท่วมทับจิตแล้วทำปัญญาให้ถอยกำลัง มีอยู่ห้าอย่าง อย่างไรเล่า ?
ห้าอย่าง คือ
( ๑ )
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ
กามฉันทะ
ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ถอยกำลัง…
( ๒ )
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ
พยาบาท
ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ถอยกำลัง…
( ๓ )
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ
ถีนมิทธะ
ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ถอยกำลัง…
( ๔ )
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ
อุทธัจจกุกกุจจะ
ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ถอยกำลัง…
( ๕ )
นิวรณ์เครื่องกางกั้น คือ
วิจิกิจฉา
ครอบงำจิตแล้ว ทำปัญญาให้ถอยกำลัง…
ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุที่ไม่ละนิวรณ์
อันเป็นเครื่องกางกั้นจิตห้าอย่างเหล่านี้แล้ว
จักรู้ซึ่งประโยชน์ตน หรือประโยชน์ผู้อื่น
หรือประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือจักกระทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะ
อันวิเศษ อันควรแก่ความเป็นอริยะ
ยิ่งกว่าธรรมดาแห่งมนุษย์
ด้วยปัญญาอันทุพพลภาพ ไร้กำลัง ดังนี้นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุทั้งหลาย !
เปรียบเหมือนแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขา
ไหลไปสู่ที่ไกล มีกระแสเชี่ยว
พัดพาสิ่งต่าง ๆ ไปได้มีบุรุษมาเปิดช่องทั้งหลายที่เขาขุดขึ้น
ด้วยเครื่องไถ ทั้งสองฝั่งแม่น้ำนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ กระแสกลางแม่น้ำนั้น
ก็ซัดส่าย ไหลผิดทาง ไม่ไหลไปสู่ที่ไกล
ไม่มีกระแสเชี่ยว ไม่พัดสิ่งต่าง ๆ ไปได้นี้ฉันใด
…
ภิกษุทั้งหลาย !
ข้อนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันภิกษุที่ไม่ละนิวรณ์
อันเป็นเครื่องกางกั้นจิตห้าอย่างเหล่านี้แล้ว
จักรู้ซึ่งประโยชน์ตน หรือประโยชน์ผู้อื่น
หรือประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือจักกระทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสสนะ
อันวิเศษ อันควรแก่ความเป็นอริยะ
ยิ่งกว่าธรรมดาแห่งมนษุย์
ด้วยปัญญาอันทุพพลภาพ ไร้กำลัง ดังนี้นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
( บาลี – ปญฺจก.-ฉกฺก. อํ. ๒๒/๗๒-๗๓/๕๑ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้