บทอธิษฐานจิตเพื่อทำความเพียร
ภิกษุทั้งหลาย !
เรายังรู้สึกได้อยู่ซึ่งธรรมสองอย่าง คือความไม่รู้จักอิ่มจักพอ
ในกุศลธรรมทั้งหลายและความเป็นผู้ไม่ถอยกลับ
ในการทำความเพียรภิกษุทั้งหลาย !
เราย่อมตั้งไว้ซึ่งความเพียร อันไม่ถอยกลับว่าหนัง เอ็น กระดูก จักเหลืออยู่
เนื้อและเลือดในสรีระ จักเหือดแห้งไปก็ตามทีประโยชน์ใดอันบุคคลจะบรรลุได้
ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร
ด้วยความบากบั่นของบุรุษถ้ายังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว
จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี ดังนี้
ภิกษุทั้งหลาย !
การตรัสรู้
เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาทอนุตตรโยคักเขมธรรม
ก็เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาทภิกษุทั้งหลาย !
ถ้าแม้พวกเธอ
พึงตั้งไว้ซึ่งความเพียร อันไม่ถอยกลับว่าหนัง เอ็น กระดูก จักเหลืออยู่
เนื้อและเลือดในสรีระ จักเหือดแห้งไปก็ตามทีประโยชน์ใดอันบุคคลจะบรรลุได้
ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร
ด้วยความบากบั่นของบุรุษถ้ายังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว
จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มีดังนี้ แล้วไซร้
ภิกษุทั้งหลาย !
พวกเธอก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง
ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่าอันเป็นประโยชน์
ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออกจากเรือน
บวชเป็นผู้ไม่มีเรือน โดยชอบได้ต่อกาล
ไม่นานในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้วแลอยู่ เป็นแน่นอน
( บาลี – เอก.-ทุก.-ติก. อํ. ๒๐/๖๔/๒๕๑ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้