ที่ ๆ ควรเที่ยว
ภิกษุทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้
พวกเธอทั้งหลาย
อย่าได้เที่ยวไปในวิสัยอื่น ซึ่งมิใช่วิสัยควรเที่ยวไป
เมื่อพวกเธอเที่ยวไปในวิสัยอื่น ซึ่งมิใช่วิสัยควรเที่ยวไป
มารจักได้ช่อง มารจักได้โอกาสก็วิสัยอื่นซึ่งมิใช่วิสัยควรเที่ยวไปของภิกษุ
คืออะไรเล่าคือ กามคุณ ๕
กามคุณ ๕ อย่างอะไรบ้าง คือ
รูปที่เห็นด้วยตา
ซึ่งเป็นที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าชอบใจ
เป็นสิ่งที่ยั่วยวนชวนให้รัก
เป็นที่เข้าไปตั้งอยู่แห่งความใคร่
เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ…
เสียงที่ได้ยินด้วยหู
ซึ่งเป็นที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าชอบใจ
เป็นสิ่งที่ยั่วยวนชวนให้รัก
เป็นที่เข้าไปตั้งอยู่แห่งความใคร่
เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ…
กลิ่นที่รู้สึกด้วยจมูก
ซึ่งเป็นที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าชอบใจ
เป็นสิ่งที่ยั่วยวนชวนให้รัก
เป็นที่เข้าไปตั้งอยู่แห่งความใคร่
เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ…
รสที่รู้สึกด้วยลิ้น
ซึ่งเป็นที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าชอบใจ
เป็นสิ่งที่ยั่วยวนชวนให้รัก
เป็นที่เข้าไปตั้งอยู่แห่งความใคร่
เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ…
และโผฏฐัพพะ
ที่รู้สึกด้วยการสัมผัสทางกาย
ซึ่งเป็นที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าชอบใจ
เป็นสิ่งที่ยั่วยวนชวนให้รัก
เป็นที่เข้าไปตั้งอยู่แห่งความใคร่
เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ…
ภิกษุทั้งหลาย นี้แล
เป็นวิสัยอื่นซึ่งมิใช่วิสัยควรเที่ยวไปของภิกษุ
ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงเที่ยวไปในที่ที่ควรเที่ยวไป
ซึ่งเป็นวิสัยแห่งบิดาตนเถิด
เมื่อเธอทั้งหลายเที่ยวไปในที่ที่ควรเที่ยวไป
ซึ่งเป็นวิสัยแห่งบิดาตน
มารจักไม่ได้ช่อง มารจักไม่ได้โอกาสก็ที่ที่ควรเที่ยวไป
ซึ่งเป็นวิสัยแห่งบิดาตน คืออะไรคือ สติปัฏฐาน ๔
สติปัฏฐาน ๔ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในกรณีนี้
ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย…
ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย…
ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย…
ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย…
ภิกษุทั้งหลาย
นี้คือที่ที่ควรเที่ยวไป
ซึ่งเป็นวิสัยแห่งบิดาตนของภิกษุ
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๙๗-๑๙๘/๖๙๙-๗๐๐ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้