เปรียบสิ่งที่ตรัสรู้
มีมากเหมือนใบไม้บนต้น
ภิกษุทั้งหลาย !
เธอทั้งหลายเข้าใจว่าอย่างไร
ใบไม้สีสปาที่เรากำขึ้นหน่อยหนึ่งนี้มาก
หรือว่าใบไม้สีสปาที่ยังอยู่บนต้นเหล่านั้นมากข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
ใบไม้ที่พระผู้มีพระภาค
ทรงกำขึ้นหน่อยหนึ่งนั้นเป็นของน้อย
ส่วนใบไม้ที่ยังอยู่บนต้นสีสปาเหล่านั้นย่อมมีมากภิกษุทั้งหลาย !
ฉันใดก็ฉันนั้น
ธรรมะส่วนที่เรารู้ยิ่งด้วยปัญญาอันยิ่ง
แล้วไม่กล่าวสอนนั้น
มีมากกว่าส่วนที่นำมากล่าวสอน…
ภิกษุทั้งหลาย !
เหตุไรเล่า
เราจึงไม่กล่าวสอนธรรมะส่วนนั้น ๆภิกษุทั้งหลาย !
เพราะเหตุว่าธรรมะส่วนนั้น ๆ
ไม่ประกอบอยู่ด้วยประโยชน์
ที่เป็นเงื่อนต้นแห่งพรหมจรรย์
ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย
ไม่เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด
ไม่เป็นไปเพื่อความดับ
ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ
ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง
ไม่เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม
ไม่เป็นไปเพื่อนิพพานฉะนั้น เราจึงไม่กล่าวสอน
ภิกษุทั้งหลาย !
ธรรมะอะไรเล่าเป็นธรรมะที่เรากล่าวสอน ?ภิกษุทั้งหลาย !
ธรรมะที่เรากล่าวสอน คือข้อที่ว่า
ความทุกข์ เป็นอย่างนี้ ๆเหตุเป็นที่เกิดของความทุกข์
เป็นอย่างนี้ ๆความดับสนิทของความทุกข์
เป็นอย่างนี้ ๆข้อปฎิบัติเพื่อถึง
ความดับสนิทของความทุกข์ เป็นอย่างนี้ ๆ…
ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะเหตุไรเล่า
ธรรมส่วนนี้เราจึงนำมากล่าวสอน ?ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะว่าธรรมะส่วนนี้
ประกอบอยู่ด้วยประโยชน์
เป็นเงื่อนต้นแห่งพรหมจรรย์
เป็นไปเพื่อความหน่าย
เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อความดับ
เป็นไปเพื่อความสงบ
เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง
เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม
เป็นไปเพื่อนิพพานเพราะเหตุนั้นแล
เราจึงนำมากล่าวสอน
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๘-๕๔๙/๑๗๑๒-๑๗๑๓ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้