ความร้อนอื่นที่ใหญ่หลวงกว่า
น่ากลัวกว่านรก
ภิกษุทั้งหลาย
นรกชื่อว่ามหาปริฬาหะ มีอยู่ในนรกนั้น
บุคคลยังเห็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้ด้วยจักษุแต่ได้เห็นรูปที่ไม่น่าปรารถนาอย่างเดียว
ไม่ได้เห็นรูปที่น่าปรารถนาเลยเห็นรูปที่ไม่น่าใคร่อย่างเดียว
ไม่ได้เห็นรูปที่น่าใคร่เลยเห็นรูปที่ไม่น่าพอใจอย่างเดียว
ไม่ได้เห็นรูปที่น่าพอใจเลย
ในนรกนั้น
บุคคลยังฟังเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้ด้วยโสตะแต่ได้ฟังเสียงที่ไม่น่าปรารถนาอย่างเดียว
ไม่ได้ฟังเสียงที่น่าปรารถนาเลยฟังเสียงที่ไม่น่าใคร่อย่างเดียว
ไม่ได้ฟังเสียงที่น่าใคร่เลยฟังเสียงที่ไม่น่าพอใจอย่างเดียว
ไม่ได้ฟังเสียงที่น่าพอใจเลย
ในนรกนั้น
บุคคลยังรู้สึกกลิ่นอย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้ด้วยฆานะแต่ได้รู้สึกกลิ่นที่ไม่น่าปรารถนาอย่างเดียว
ไม่ได้รู้สึกกลิ่นที่น่าปรารถนาเลยรู้สึกกลิ่นที่ไม่น่าใคร่อย่างเดียว
ไม่ได้รู้สึกกลิ่นที่น่าใคร่เลยรู้สึกกลิ่นที่ไม่น่าพอใจอย่างเดียว
ไม่ได้รู้สึกกลิ่นที่น่าพอใจเลย
ในนรกนั้น
บุคคลยังลิ้มรสอย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้ด้วยชิวหาแต่ได้ลิ้มรสที่ไม่น่าปรารถนาอย่างเดียว
ไม่ได้ลิ้มรสที่น่าปรารถนาเลยลิ้มรสที่ไม่น่าใคร่อย่างเดียว
ไม่ได้ลิ้มรสที่น่าใคร่เลยลิ้มรสที่ไม่น่าพอใจอย่างเดียว
ไม่ได้ลิ้มรสที่น่าพอใจเลย
ในนรกนั้น
บุคคลยังถูกต้องโผฏฐัพพะอย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้ด้วยกายแต่ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะที่ไม่น่าปรารถนาอย่างเดียว
ไม่ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะที่น่าปรารถนาเลยถูกต้องโผฏฐัพพะที่ไม่น่าใคร่อย่างเดียว
ไม่ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะที่น่าใคร่เลยถูกต้องโผฏฐัพพะที่ไม่น่าพอใจอย่างเดียว
ไม่ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะที่น่าพอใจเลย
ในนรกนั้น
บุคคลยังรู้สึกธรรมารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
ได้ด้วยใจแต่ได้รู้สึกธรรมารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนาอย่างเดียว
ไม่ได้รู้สึกธรรมารมณ์ที่น่าปรารถนาเลยรู้สึกธรรมารมณ์ที่ไม่น่าใคร่อย่างเดียว
ไม่ได้รู้สึกธรรมารมณ์ที่น่าใคร่เลยรู้สึกธรรมารมณ์ที่ไม่น่าพอใจอย่างเดียว
ไม่ได้รู้สึกธรรมารมณ์ที่น่าพอใจเลย
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว
ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ความเร่าร้อนนั้นใหญ่หลวงหนอข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ความเร่าร้อนนั้นใหญ่หลวงนักหนอข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
มีไหม พระเจ้าข้า
ความร้อนอื่นที่ใหญ่หลวงกว่า
น่ากลัวกว่าความร้อนนี้ภิกษุทั้งหลาย
มีอยู่ ความเร่าร้อนอื่นที่ใหญ่หลวงกว่า
น่ากลัวกว่าความร้อนนี้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ก็ความร้อนอื่นที่ใหญ่หลวงกว่า
น่ากลัวกว่าความร้อนนี้เป็นอย่างไรเล่า ?ภิกษุทั้งหลาย
ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริง
ว่า ทุกข์เป็นอย่างนี้ ๆ
ว่า เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ ๆ
ว่า ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ ๆ
ว่า ข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับ
ไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้สมณพราหมณ์เหล่านั้น
ย่อมยินดียิ่งในสังขารทั้งหลาย
อันเป็นไปพร้อมเพื่อชาติชรามรณะ
โสกะปริเทวะ ทุกขะโทมนัส อุปายาสสมณพราหมณ์เหล่านั้น
ครั้นยินดียิ่งในสังขารทั้งหลายเช่นนั้นแล้ว
ย่อมปรุงแต่งซึ่งสังขารทั้งหลาย
อันเป็นไปพร้อมเพื่อชาติชรามรณะ
โสกะปริเทวะ ทุกขะโทมนัส อุปายาสสมณพราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้น
ครั้นปรุงแต่งซึ่งสังขารทั้งหลายเช่นนั้นแล้ว
ย่อมเร่าร้อนเพราะความเร่าร้อนแห่งชาติบ้าง
ย่อมเร่าร้อนเพราะความเร่าร้อนแห่งชราบ้าง
ย่อมเร่าร้อนเพราะความเร่าร้อนแห่งมรณะบ้าง
ย่อมเร่าร้อนเพราะความเร่าร้อนแห่ง
โสกะปริเทวะ ทุกขะโทมนัส อุปยาสบ้างเรากล่าวว่าสมณพราหมณ์เหล่านั้น
ย่อมไม่พ้นจากชาติชรามรณะ
โสกะปริเทวะ ทุกขะโทมนัส อุปายาสทั้งหลายคือไม่พ้นจากทุกข์ ดังนี้
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๒-๕๖๓/๑๗๓๑-๑๗๓๓ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้