ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีนิพพานเป็นที่สุด



ภิกษุทั้งหลาย
ถ้าปริพพาชกเดียรถีย์เหล่าอื่น
จะถามอย่างนี้ว่า

อาวุโส
ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ( สพฺเพ ธมฺมา )
มีอะไรเป็นมูล ( มูลก )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นแดนเกิด ( สมฺภว )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นเหตุเกิด ( สมุทย )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นที่ประชุมลง ( สโมสรณ )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นประมุข ( ปมุข )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นอธิบดี ( อธิปเตยฺย )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นอันดับสูงสุด ( อุตฺตร )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นแก่น ( สาร )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นที่หยั่งลง ( โอคธ )

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอะไรเป็นที่สุด ( ปริโยสาน )

ดังนี้


ภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว
พึงตอบแก่ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น
อย่างนี้ว่า

อาวุโสทั้งหลาย
ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีฉันทะ เป็นมูล

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีมนสิการ เป็นแดนเกิด

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีผัสสะ เป็นเหตุเกิด

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีเวทนา เป็นที่ประชุมลง

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีสมาธิ เป็นประมุข

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีสติ เป็นอธิบดี

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีปัญญา เป็นอันดับสูงสุด

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีวิมุตติ เป็นแก่น

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีอมตะ เป็นที่หยั่งลง

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มีนิพพาน เป็นที่สุด

ภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว
พึงตอบแก่ปริพพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้น
อย่างนี้แล


( บาลี – ทสก. อํ. ๒๔/๑๑๓-๑๑๔/๕๘ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้


Create by buddha-quote.com