ไม่เป็นการสมควรแก่เรา



ภิกษุทั้งหลาย !
เราเป็นผู้ละเอียดอ่อน
ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง
ละเอียดอ่อนอย่างที่สุด
ดังเราจะเล่าให้ฟัง

ภิกษุทั้งหลาย !
เขาขุดสระ ๓ สระในวังแห่งบิดาของเรา
ในสระหนึ่งปลูกอุบล ( บัวเขียว )
สระหนึ่งปลูกปทุม ( บัวหลวง )
สระหนึ่งปลูกบุณฑริกะ ( บัวขาว )
เพื่อประโยชน์แก่เรา

ภิกษุทั้งหลาย !
มิใช่ว่าจันทน์ที่เราใช้อย่างเดียวที่มาแต่เมืองกาสี
ถึงผ้าโพก เสื้อ ผ้านุ่ง ผ้าห่ม ก็ล้วนมาแต่เมืองกาสี

ภิกษุทั้งหลาย !
เขาคอยกั้นเศวตฉัตรให้เรา
ด้วยหวังว่าความหนาว ความร้อน
ละออง หญ้า หรือ น้ำค้าง
อย่าได้ถูกต้องเราทั้งกลางวันและกลางคืน

ภิกษุทั้งหลาย !
มีปราสาทสำหรับเรา ๓ หลัง
หลังหนึ่งสำหรับฤดูหนาว
หลังหนึ่งสำหรับฤดูร้อน
และหลังหนึ่งสำหรับฤดูฝน
เราอยู่บนปราสาทสำหรับฤดูฝน
ตลอดสี่เดือนฤดูฝน
ให้เขาบำเรออยู่ด้วยดนตรีอันปราศจากบุรุษ
ไม่ลงจากปราสาททั้งหลาย

ภิกษุทั้งหลาย !
ในวังของบิดาเรา
เขาให้ข้าวสุกแห่งข้าวสาลีเจือด้วยเนื้อ
แก่ทาสและคนงาน
เช่นเดียวกับที่ที่อื่นเขาให้ข้าวปลายเกรียน
กับน้ำส้มแก่พวกทาสและคนใช้

ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่อเราเพียบพร้อมไปด้วยการได้ตามใจตัวถึงเพียงนี้
มีการได้รับความประคบประหงมถึงเพียงนี้
ความคิดก็ยังบังเกิดแก่เรา ว่า



ปุถุชนที่มิได้ยินได้ฟัง
ทั้งที่ตัวเองจะต้องแก่
ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
แต่ครั้นเห็นคนอื่นแก่ ก็นึกอิดหนาระอาใจ
สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเสียเลย

ถึงเราเองก็เหมือนกัน
จะต้องแก่ ไม่ข้ามพ้นความแก่ไปได้

แต่ว่าเมื่อจะต้องแก่
ไม่พ้นความแก่ไปได้
แล้วจะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ
สะอิดสะเอียนเมื่อเห็นคนอื่นแก่นั้น
ไม่เป็นการสมควรแก่เรา

ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้
ความมัวเมาในความหนุ่มของเรา
ได้หายไปหมดสิ้น



ภิกษุทั้งหลาย !
ปุถุชนที่ไม่ได้ยินได้ฟัง
ทั้งที่ตัวเองจะต้องเจ็บไข้
ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
ครั้นเห็นคนอื่นเจ็บไข้ ก็นึกอิดหนาระอาใจ
สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเสียเลย

ถึงเราเองก็เหมือนกัน
จะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้

แต่ว่าเมื่อจะต้องเจ็บไข้
ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้แล้ว
จะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ
สะอิดสะเอียนเมื่อเห็นคนอื่นเจ็บไข้นั้น
ไม่เป็นการสมควรแก่เรา

ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้
ความมัวเมาในความไม่มีโรคของเรา
ก็หายไปหมดสิ้น



ภิกษุทั้งหลาย !
ปุถุชนที่ไม่ได้ยินได้ฟัง
ทั้งที่ตัวเองจะต้องตาย
ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
ครั้นเห็นคนอื่นตาย ก็อิดหนาระอาใจ
สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเสียเลย

ถึงเราเองก็เหมือนกัน
จะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้

แต่ว่าเมื่อจะต้องตาย
ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
แล้วจะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ
สะอิดสะเอียนเมื่อเห็นคนอื่นตายนั้น
ไม่เป็นการสมควรแก่เรา

ภิกษุทั้งหลาย !
เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้
ความมัวเมาในชีวิตความเป็นอยู่ของเรา
ได้หายไปหมดสิ้น


( บาลี – ติก. อํ. ๒๐/๑๘๓-๑๘๖/๔๗๘ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้


Create by buddha-quote.com