ความมุ่งหมาย
ของคนผู้เป็นศัตรูกัน ๗ ประการ
( โทษของความโกรธ )
ภิกษุทั้งหลาย
ธรรม ๗ ประการเหล่านี้
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธธรรม ๗ ประการอะไรบ้าง คือ
…
( ๑ )
ภิกษุทั้งหลาย
คนผู้เป็นศัตรูกันในกรณีนี้
ย่อมปรารถนาต่อคนผู้เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลผู้นี้มีผิวพรรณทรามเถิดหนอข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันมีผิวพรรณงามภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
แม้จะอาบน้ำ ไล้ทา ตัดผม โกนหนวด
นุ่งผ้าขาวสะอาดแล้วก็ตาม
แต่ถูกความโกรธครอบงำแล้ว
ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณทราม…
ภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นธรรมข้อที่ ๑
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
( ๒ )
ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่งคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมปรารถนาต่อคนที่เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลผู้นี้พึงนอนเป็นทุกข์เถิดหนอข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันอยู่สบายภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
แม้จะนอนบนบัลลังก์อันปูลาดด้วยผ้าขนสัตว์
ปูลาดด้วยผ้าขาวเนื้ออ่อน ปูลาดด้วยเครื่องปูลาดอย่างดี
ทำด้วยหนังชะมด เครื่องปูลาดมีเพดานด้านบน
และมีหมอนสีแดงวางไว้ทั้ง ๒ ข้างก็ตาม
แต่ถูกความโกรธครอบงำแล้ว ย่อมนอนเป็นทุกข์…
ภิกษุทั้งหลาย
นี้เป็นธรรมข้อที่ ๒
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
( ๓ )
ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่งคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมปรารถนาต่อคนผู้เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลผู้นี้อย่ามีความเจริญเลยข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันมีความเจริญภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
แม้จะถือเอาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
ก็สำคัญว่าเราถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์
แม้จะถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์
ก็สำคัญว่าเราถือเอาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำ
ถือเอาธรรมเหล่านี้อันเป็นศัตรูแก่กันและกันแล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหาย
มิใช่เพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เป็นไปเพื่อความทุกข์ตลอดกาลนาน…
ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๓
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
( ๔ )
ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่งคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมปรารถนาต่อคนผู้เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลผู้นี้อย่ามีโภคทรัพย์เลยข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนที่เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันมีโภคทรัพย์ภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
แม้จะมีโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร
สะสมขึ้นด้วยกำลังแขน มีตัวชุ่มด้วยเหงื่อ
เป็นโภคทรัพย์ที่ประกอบด้วยธรรม ได้มาโดยธรรม
พระราชาทั้งหลายย่อมริบโภคทรัพย์
ของคนมักโกรธเข้าพระคลังหลวง…
ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๔
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
( ๕ )
ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่งคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมปรารถนาต่อคนผู้เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลผู้นี้อย่ามียศเลยข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันมียศภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
แม้จะได้ยศมาเพราะความไม่ประมาท
ก็เสื่อมจากยศนั้นได้…
ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๕
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
( ๖ )
ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่งคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมปรารถนาต่อคนผู้เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลนี้อย่ามีมิตรเลยข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนที่เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันมีมิตรภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
แม้เขาจะมีมิตรอำมาตย์ มีญาติสาโลหิต
มิตรอำมาตย์ ญาติสาโลหิตเหล่านั้น
ก็เว้นห่างไกลจากเขาเสีย…
ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๖
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
( ๗ )
ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่งคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมปรารถนาต่อคนผู้เป็นศัตรูกันอย่างนี้ว่า
ขอให้บุคคลนี้ ภายหลังจากการตาย
เพราะกายแตกทำลาย
จงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรกเถิดข้อนั้นเพราะเหตุอะไร ?
เพราะคนที่เป็นศัตรูกัน
ย่อมไม่ยินดีให้คนที่เป็นศัตรูกันไปสุคติภิกษุทั้งหลาย
ผู้ที่มีความโกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย
ประพฤติทุจริตด้วยวาจา
ประพฤติทุจริตด้วยใจ
ภายหลังจากการตาย เพราะกายแตกทำลาย
ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก…
ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๗
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ…
ภิกษุทั้งหลาย
ธรรม ๗ ประการเหล่านี้แล
เป็นความมุ่งหมายของคนผู้เป็นศัตรูกัน
เป็นความต้องการของคนผู้เป็นศัตรูกัน
ย่อมมาถึงหญิงหรือชายผู้มีความโกรธ
ผู้ที่มีความโกรธ
ย่อมมีผิวพรรณทราม ย่อมนอนเป็นทุกข์
ถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว
กลับปฏิบัติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ผู้ที่มีความโกรธ
ถูกความโกรธครอบงำ
ทำปาณาติบาตด้วยกายและวาจาแล้ว
ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์ผู้มัวเมาเพราะความโกรธ
ย่อมถึงความไม่มียศ ญาติมิตรและสหาย
ย่อมเว้นคนโกรธเสียห่างไกลความโกรธก่อให้เกิดความพินาศ
ทำจิตให้กำเริบ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่า
ความโกรธที่เกิดขึ้นภายในนั้นเป็นภัยคนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ ย่อมไม่เห็นธรรม
เมื่อใดความโกรธครอบงำนรชน
เมื่อนั้นย่อมมีแต่ความมืดมนผู้ที่มีความโกรธ
ย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยากเหมือนทำได้ง่าย
ภายหลังเมื่อหายโกรธแล้ว
เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้เมื่อใดความโกรธที่เป็นตัวการให้คนโกรธเกิดขึ้นมา
เมื่อนั้นคนโกรธย่อมแสดงความเป็นผู้-เก้อ-ยากก่อน
เหมือนไฟแสดงควันก่อน ฉันนั้นผู้ที่มีความโกรธนั้น
ย่อมไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ
และไม่มีความน่าเคารพ
คนที่ถูกความโกรธครอบงำ
ย่อมไม่มีความสว่างแม้แต่น้อยเลย
กรรมเหล่าใด
ยังห่างไกลจากธรรมอันให้เกิดความเดือดร้อน
เราจักบอกกรรมเหล่านั้นเธอทั้งหลายจงฟังธรรมนั้นไปตามลำดับ
…
ผู้ที่มีความโกรธ
ย่อมฆ่าบิดาก็ได้ ฆ่ามารดาของตนก็ได้
ฆ่าพราหมณ์ก็ได้ ฆ่าปุถุชนก็ได้บุตรที่มารดาเลี้ยงมาจนได้ลืมตาดูโลกนี้
เขาผู้มีกิเลสหยาบช้า โกรธขึ้นมาแล้ว
ย่อมฆ่าแม้มารดาผู้ให้ชีวิตตนนั้นเสียก็ได้แท้จริงแล้ว
สัตว์ทั้งหลายนั้นก็เหมือนกับตนเอง
เพราะ ( สัตว์เหล่านั้น ) ย่อมรักตนเองเป็นอย่างยิ่ง…
ผู้ที่มีความโกรธหมกมุ่นในรูปแบบต่าง ๆ
ย่อมฆ่าตัวเองเพราะเหตุต่าง ๆ ได้ คือ
ย่อมฆ่าตัวเองด้วยดาบบ้าง กินยาพิษบ้าง
เอาเชือกผูกคอตายบ้าง กระโดดเขาตายบ้างคนเหล่านั้น
เมื่อกระทำกรรมอันมีแต่ความเสื่อม
และเป็นตัวทำลายตนอยู่
ก็ไม่รู้สึกความเสื่อมเกิดจากความโกรธตามที่กล่าวมาความโกรธนี้เป็นบ่วงของมัจจุราช
ซึ่งมีถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย มาในรูปของความโกรธ
จึงพึงตัดความโกรธนั้น ด้วยการฝึกตน ( ทมะ )
คือ ด้วยปัญญา ด้วยความเพียร และด้วยสัมมาทิฏฐิบัณฑิตพึงตัดอกุศลธรรมแต่ละอย่างเสียให้ขาด
พึงศึกษาในธรรมเหมือนอย่างนั้น
เธอทั้งหลายปรารถนาอยู่ว่า
ขอความเป็นผู้-เก้อ-ยาก อย่าได้มีแก่เราทั้งหลายเลย…
บุคคลผู้ปราศจากความโกรธ
ไม่มีความคับแค้นใจ
ปราศจากความโลภ ไม่มีความริษยา
ฝึกฝนตนแล้ว ละความโกรธได้แล้ว
เป็นผู้ไม่มีอาสวะ ย่อมปรินิพพาน
( บาลี – สตฺตก. อํ. ๒๓/๙๖-๑๐๐/๖๑ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้