อนุสัย ๓ และเหตุเกิด
ภิกษุทั้งหลาย
เพราะอาศัยตาด้วย รูปทั้งหลายด้วย
จึงเกิดจักขุวิญญาณการประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ
นั่นคือผัสสะเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา
อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง…
เพราะอาศัยหูด้วย เสียงทั้งหลายด้วย
จึงเกิดโสตวิญญาณการประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ
นั่นคือผัสสะเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา
อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง…
เพราะอาศัยจมูกด้วย กลิ่นทั้งหลายด้วย
จึงเกิดฆานวิญญาณการประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ
นั่นคือผัสสะเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา
อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง…
เพราะอาศัยลิ้นด้วย รสทั้งหลายด้วย
จึงเกิดชิวหาวิญญาณการประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ
นั่นคือผัสสะเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา
อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง…
เพราะอาศัยกายด้วย โผฏฐัพพะทั้งหลายด้วย
จึงเกิดกายวิญญาณการประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ
นั่นคือผัสสะเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา
อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง…
เพราะอาศัยใจด้วย ธรรมารมณ์ทั้งหลายด้วย
จึงเกิดมโนวิญญาณการประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการ
นั่นคือผัสสะเพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา
อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง
บุคคลนั้น
เมื่อสุขเวทนาถูกต้องอยู่
ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่
อนุสัยคือราคะ ย่อมตามนอนแก่บุคคลนั้น…
เมื่อทุกขเวทนาถูกต้องอยู่
เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมระทมใจ
ย่อมคร่ำครวญ ย่อมตีอกร่ำไห้ ย่อมถึงความหลงใหลอยู่
อนุสัยคือปฏิฆะ ย่อมตามนอนแก่บุคคลนั้น…
เมื่อเวทนาอันไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขถูกต้องอยู่
เขาย่อมไม่รู้ตามเป็นจริงซึ่งสมุทยะ ( เหตุเกิด )
ของเวทนานั้นด้วยซึ่งอัตถังคมะ ( ความดับไม่เหลือ )
แห่งเวทนานั้นด้วยซึ่งอัสสาทะ ( รสอร่อย )
ของเวทนานั้นด้วยซึ่งอาทีนวะ ( โทษ )
ของเวทนานั้นด้วยซึ่งนิสสรณะ ( อุบายเครื่องออกพ้นไป )
ของเวทนานั้นด้วยอนุสัยคืออวิชชา
ย่อมตามนอนแก่บุคคลนั้น
บุคคลนั้นหนอ
ยังละราคานุสัย
อันเกิดจากสุขเวทนาไม่ได้ยังบรรเทาปฏิฆานุสัย
อันเกิดจากทุกขเวทนาไม่ได้ยังถอนอวิชชานุสัย
อันเกิดจากอทุกขมสุขเวทนาไม่ได้…
เมื่อยังละอวิชชาไม่ได้
และยังทำวิชชาให้เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว
เขาจักทำที่สุดแห่งทุกข์ในทิฏฐธรรมนี้ได้นั้นข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จักมีได้
( บาลี – อุปริ. ม. ๑๔/๕๑๖-๕๑๘/๘๒๒ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้