อินทรีย์ ๕ ( นัยที่ ๒ )
ภิกษุทั้งหลาย
อินทรีย์ ๕ ประการนี้๕ ประการเป็นอย่างไร คือ
สัทธินทรีย์
วิริยินทรีย์
สตินทรีย์
สมาธินทรีย์
ปัญญินทรีย์
ภิกษุทั้งหลาย
ก็สัทธินทรีย์เป็นอย่างไรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีศรัทธา
เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่าแม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ
ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่าเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ทรงเบิกบานแล้วเป็นผู้จำแนกธรรมนี้เรียกว่า สัทธินทรีย์
ก็วิริยินทรีย์เป็นอย่างไรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรม
เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรม
มีกำลัง มีความบากบั่น มั่นคง
ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอริยสาวกนั้นยังฉันทะให้เกิด
พยายามปรารภความเพียร
ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้มั่น
เพื่อความไม่บังเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรม
อันลามกที่ยังไม่บังเกิดขึ้น
เพื่อละอกุศลธรรมอันลามกที่บังเกิดขึ้นแล้วเพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรมที่ยังไม่บังเกิดขึ้น
เพื่อความถึงพร้อม เพื่อความไม่หลงลืม
เพื่อเจริญยิ่งขึ้น เพื่อความไพบูลย์ เพื่อความเจริญ
เพื่อความบริบูรณ์แห่งกุศลธรรมที่บังเกิดขึ้นแล้วนี้เรียกว่า วิริยินทรีย์
ก็สตินทรีย์เป็นอย่างไรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีสติประกอบด้วยสติเครื่องรักษาตัวอย่างยิ่ง
ระลึกได้ ตามระลึกได้
ซึ่งกิจที่กระทำและคำพูดแม้นานได้อริยสาวกนั้น
ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่
มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียนี้เรียกว่า สตินทรีย์
ก็สมาธินทรีย์เป็นอย่างไรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้กระทำโวสสัคคารมณ์
แล้วได้สมาธิ ได้เอกัคคตาจิต
อริยสาวกนั้นสงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมบรรลุปฐมฌาน
มีวิตก วิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่บรรลุทุติยฌาน
มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
เพราะวิตกวิจารสงบไป
มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่
เธอมีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ
เสวยสุขด้วยกายเพราะปีติสิ้นไปบรรลุตติยฌาน
ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า
ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุขเธอบรรลุจตุตถฌาน
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขและทุกข์
และดับโทมนัสโสมนัสก่อน ๆ ได้
มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่นี้เรียกว่า สมาธินทรีย์
ก็ปัญญินทรีย์เป็นอย่างไรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญา
เครื่องกำหนดความเกิดความดับอันประเสริฐ
ชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบอริยสาวกนั้น
ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ว่า
นี้ทุกข์
นี้ทุกขสมุทัย
นี้ทุกขนิโรธ
นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทานี้เรียกว่า ปัญญินทรีย์
…
ภิกษุทั้งหลาย
เหล่านี้แลอินทรีย์ ๕ ประการ
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๖๑-๒๖๓/๘๖๔-๘๖๙ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้