บาปกรรมอย่างเดียวกัน
แต่รับวิบากกรรมต่างกัน



ภิกษุทั้งหลาย !
ใครพึงกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใด ๆ
ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้น
การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ก็มีไม่ได้

ช่องทางที่จะทำ
ที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ ก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า
คนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใด ๆ
ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้
การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้

ช่องทางที่จะทำ
ที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ ก็ย่อมปรากฏ

ภิกษุทั้งหลาย !
บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
ที่บุคคลบางคนทำแล้ว
บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้

บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย



บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลชนิดไรทำแล้ว
บาปกรรมนั้นจึงนำเขาไปนรกได้

บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีกายมิได้อบรม
มีศีลมิได้อบรม มีจิตมิได้อบรม
มีปัญญามิได้อบรม มีคุณความดีน้อย
เป็นอัปปาตุมะ เป็นอัปปทุกขวิหารี

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว
บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้

บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกัน
บุคคลชนิดไรทำแล้ว
กรรมนั้นจึงเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย

บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีกายได้อบรมแล้ว
มีศีลได้อบรมแล้ว มีจิตได้อบรมแล้ว
มีปัญญาได้อบรมแล้ว มีคุณความดีมาก
เป็นมหาตมะ เป็นอัปปมาณวิหารี

บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย



ภิกษุทั้งหลาย !
ต่างว่าคนใส่เกลือ
ลงไปในถ้วยน้ำเล็ก ๆ หนึ่งก้อน
ท่านทั้งหลายจะสำคัญว่ากระไร ?

น้ำอันน้อยในถ้วยน้ำนั้น
จะกลายเป็นน้ำเค็มไม่น่าดื่มไป
เพราะเกลือก้อนนั้นใช่ไหม

เป็นเช่นนั้น พระพุทธเจ้าข้า !

เพราะเหตุไร ?

เพราะเหตุว่าน้ำในถ้วยน้ำนั้นมีน้อย
มันจึงเค็มได้เพราะเกลือก้อนนั้น

ภิกษุทั้งหลาย !

ก้อนขนาดเดียวกันนั้น ลงไปในแม่น้ำคงคา
ท่านทั้งหลายจะสำคัญว่ากระไร ?

น้ำในแม่น้ำคงคานั้นจะกลายเป็นน้ำเค็ม
ดื่มไม่ได้ เพราะเกลือก้อนนั้นหรือ

หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า !

เพราะเหตุไร ?

เพราะเหตุว่าน้ำในแม่น้ำคงคามีมาก
น้ำนั้นจึงไม่เค็มเพราะเกลือก้อนนั้น

ฉันนั้นนั่นแหละ

ภิกษุทั้งหลาย !
บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลบางคนทำแล้ว
บาปกรรมนั้นย่อมนำไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย



ภิกษุทั้งหลาย !
คนบางคนย่อมผูกพันเพราะทรัพย์
แม้กึ่งกหาปณะ แม้ ๑ กหาปณะ
แม้ ๑๐๐ กหาปณะ

ส่วนบางคน
ไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น

คนอย่างไรจึงผูกพันเพราะทรัพย์
แม้กึ่งกหาปณะ แม้ ๑ กหาปณะ
แม้ ๑๐๐ กหาปณะ

คนบางคนในโลกนี้เป็นคนจน
มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย
คนอย่างนี้ย่อมผูกพันเพราะทรัพย์
แม้กึ่งกหาปณะ แม้ ๑ กหาปณะ
แม้ ๑๐๐ กหาปณะ

คนอย่างไร
ไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น

คนบางคนในโลกนี้เป็นผู้มั่งคั่ง
มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก
คนอย่างนี้ย่อมไม่ผูกพัน
เพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น

ฉันนั้นนั่นแหละ

ภิกษุทั้งหลาย !
บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลบางคนทำแล้ว
บาปกรรมนั้นย่อมนำไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย



ภิกษุทั้งหลาย !
พรานแกะหรือคนฆ่าแกะบางคนอาจฆ่า มัด ย่าง
หรือทำตามประสงค์ ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้

บางคนไม่อาจทำอย่างนั้น

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไรจึงอาจฆ่า มัด ย่าง
หรือทำตามประสงค์ ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้

คนบางคนในโลกนี้เป็นคนยากจน
มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย
พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้อาจฆ่า มัด ย่าง
หรือทำตามประสงค์ ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไร
ไม่อาจทำอย่างนั้น

คนบางคนในโลกนี้เป็นผู้มั่งคั่ง
มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก
เป็นพระราชาหรือราชมหาอำมาตย์
พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้ ไม่อาจทำอย่างนั้น

มีแต่ว่าคนอื่นจะประณมมือ
ขอกะเขาว่า ท่านผู้นิรทุกข์ท่านโปรดให้แกะ
หรือทรัพย์ค่าซื้อแกะแก่ข้าพเจ้าบ้าง ดังนี้

ฉันใด ฉันนั้นเหมือนกัน

ภิกษุทั้งหลาย !
บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคลบางคนทำแล้ว
บาปกรรมนั้นย่อมนำไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น
บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย



ภิกษุทั้งหลาย !
ใครพึงกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใด ๆ
ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้น
การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ก็มีไม่ได้

ช่องทางที่จะทำ
ที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ ก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า
คนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใด ๆ
ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้
การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้

ช่องทางที่จะทำ
ที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ ก็ย่อมปรากฏ


( บาลี – เอก.-ทุก.-ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐-๓๒๔/๕๔๐ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้


Create by buddha-quote.com