ให้ใช้ธรรมวินัยเป็นศาสดา
อานนท์ !
ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่าธรรมวินัยของพวกเรา
มีพระศาสดาล่วงลับไปเสียแล้ว
พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้อานนท์ !
พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น…
อานนท์ !
ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว
บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลายธรรมวินัยนั้น
จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย
โดยกาลล่วงไปแห่งเรา
( บาลี – มหา. ที. ๑๐/๑๗๘/๑๔๑ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้
อานนท์ !
ในกาลบัดนี้ก็ดี ในกาลล่วงไปแห่งเราก็ดีใครก็ตาม
จักต้องมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ
ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ
ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่…
อานนท์ !
ภิกษุพวกใดเป็นผู้ใคร่ในสิกขาภิกษุพวกนั้น
จักเป็นผู้อยู่ในสถานะอันเลิศที่สุดแล
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๑๗/๗๔๐ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้
อานนท์ !
ความขาดสูญแห่งกัลยาณวัตรนี้
มีในยุคแห่งบุรุษใดบุรุษนั้นชื่อว่า
เป็นบุรุษคนสุดท้ายแห่งบุรุษทั้งหลายเราขอกล่าวย้ำกะเธอว่า
เธอทั้งหลาย !
อย่าเป็นบุรุษพวกสุดท้ายของเราเลย
( บาลี – ม. ม. ๑๓/๔๒๖-๔๒๘/๔๖๓ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้