พอรู้อริยสัจสี่ ทุกข์เหลือน้อย
ภิกษุทั้งหลาย !
เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนี้ ว่าอย่างไรฝุ่นนิดหนึ่ง
ที่เราช้อนขึ้นด้วยปลายเล็บนี้กับมหาปฐพีนี้
ข้างไหนจะมากกว่ากัน ?ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
มหาปฐพีนั่นแหละเป็นดินที่มากกว่าฝุ่นนิดหนึ่งเท่าที่ทรงช้อนขึ้น
ด้วยปลายพระนขานี้ เป็นของมีประมาณน้อยฝุ่นนั้นเมื่อนำเข้าไปเทียบกับมหาปฐพี
ย่อมไม่ถึงซึ่งการคำนวณได้ เปรียบเทียบได้
ไม่เข้าถึงแม้ซึ่งกะละภาค
ภิกษุทั้งหลาย !
อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้นสำหรับอริยสาวก
ผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมาทิฏฐิ รู้พร้อมเฉพาะแล้วความทุกข์ของท่าน
ส่วนที่สิ้นไปแล้ว หมดไปแล้ว ย่อมมีมากกว่า
ความทุกข์ที่ยังเหลืออยู่ มีประมาณน้อยเมื่อนำเข้าไปเทียบกับกองทุกข์
ที่สิ้นไปแล้ว หมดไปแล้วในกาลก่อน
ย่อมไม่ถึงซึ่งการคำนวณได้ เปรียบเทียบได้
ไม่เข้าถึงแม้ซึ่งกะละภาคนั่นคือความทุกข์ของโสดาบัน
ผู้สัตตักขัตตุปรมะ ผู้เห็นชัดตามเป็นจริงว่าทุกข์เป็นอย่างนี้
เหตุให้เกิดทุกข์
เป็นอย่างนี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
เป็นอย่างนี้ทางดำเนินให้ถึงซึ่ง
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ ดังนี้
ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้เธอพึงประกอบโยคกรรม
อันเป็นเครื่องกระทำให้รู้ว่าทุกข์เป็นอย่างนี้
เหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์
เป็นอย่างนี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
เป็นอย่างนี้ทางดำเนินให้ถึงซึ่ง
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ ดังนี้
( บาลี – มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๗๒/๑๗๔๗ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้