ความรู้สึกของบุถุชน
ไขว้กันอยู่เสมอต่อหลักแห่งอริยสัจ



คหบดี !
หน้าตาของท่านแสดงว่าท่านกำลังไม่มีจิต ไม่มีใจ
หน้าตาของท่านผิดปกติไปแล้ว

ท่านผู้เจริญ !
หน้าตาของข้าพเจ้าจะไม่ผิดปกติได้อย่างไรเล่า
เพราะว่าบุตรน้อยเป็นที่รัก ที่พอใจ
คนเดียวของข้าพเจ้า 
ตายเสียแล้ว

เพราะการตายของบุตรน้อยนั้น
การงานก็มืดมน ข้าวปลาอาหารก็มืดมน
ข้าพเจ้าเอาแต่ไปสู่ที่เผาลูก
แล้วคร่ำครวญอยู่ว่า ลูกน้อยคนเดียวอยู่ไหน ๆ

มันเป็นอย่างนั้นแหละ คหบดี !

โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส
และอุปายาสทั้งหลายนั้น
เกิดจากของรัก มีของรักเป็นแดนเกิด



ท่านผู้เจริญ !

โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส
และอุปายาสทั้งหลายนั้น เกิดจากของรัก
มีของรักเป็นแดนเกิดได้อย่างไรกัน ?

เพราะว่า ความเพลิดเพลินและโสมนัสต่างหาก
ที่เกิดแต่ของรัก มีของรักเป็นแดนเกิด

คหบดีนั้น
ไม่ยอมรับไม่คัดค้านคำของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ลุกจากอาสนะแล้วหลีกไปเสีย

เขาได้เข้าไปหากลุ่มนักเลงสกา ที่เล่นสกากันอยู่
ในที่ใกล้ ๆ กันนั้น เล่าเรื่องให้ฟัง
แล้วก็ได้รับคำรับสมอ้างจากพวกนักเลงสกาเหล่านั้น

ถูกแล้ว ๆ ท่านคหบดี !
ความเพลิดเพลินและโสมนัส เกิดแต่ของรัก
มีของรักเป็นแดนเกิดอย่างแน่นอน ดังนี้

เขาก็พอใจว่าความคิดของเขาตรงกัน
กับความคิดของนักเลงสกาทั้งหลาย ดังนี้

แล้วก็หลีกไป

( ความคิดของพวกบุถุชนย่อมตรงกันเสมอ
แต่ไม่อาจจะลงรอยกันได้กับความจริงที่เป็นอริยสัจ )


( บาลี – ม. ม. ๑๓/๔๘๙-๔๙๑/๕๓๖-๕๓๗ )
เทียบเคียงพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ กดที่นี้


Create by buddha-quote.com